เรื่อง ชีวิตจริงยิ่งกว่าเกมส์ออนไลน์ นี้ผมเคยเขียนเอาไว้ใน Note บน Facebookของผม วันนี้เลยอยากจะเอากลับมาเรียบเรียงใหม่ ตอกไข่ใส่สี ผสมคราบน้ำตา ละเลงเหงื่อไคล ประกอบกับหลากหลายอารมณ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ก้าวออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัย สู่เมืองฟ้าอมร เพื่อทำงานหาเงิน เริ่มต้นชีวิตมนุษย์เงินเดือนนั้นเอง. .
หลังจากเรียนจบออกมาทำงานเกือบๆปีครึ่ง ก็ลองนึกย้อนไปในอดีต บางครั้งก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ เมื่อก่อนเราว่างมาก มากจนนั่งเล่นเกมส์ออนไลน์ได้ทั้งวันทั้งคืน เทียบกับเวลาทำงาน ตอนนี้ แล้ว คน ละ เรื่อง! พอพูดถึงเกมส์ออนไลน์ ก็นึกได้ เอามาเปรียบเทียบกับชีวิตคนเรา คิดไปคิดมา มันเหมือนกันมากนะ แต่ยังไง ชีวิตจริงก็ยิ่งกว่าเกมส์ออนไลน์อยู่แล้วหละ ผมขอเอาเกมส์ Ragnarok Online มาเปรียบเทียบละกัน ในฐานะเป็นเกมส์ยอดฮิตตลอดกาล และเป็นเกมส์แรกๆ เลยที่ทำให้ผมรู้จักเกมส์ออนไลน์ และก็เชื่อว่า คนรุ่นๆ เดียวกับผมก็คงเหมือนๆ กัน
ช่วงชีวิตวัยเยาว์ วัยเรียน – Novice ตี Poring
ทำไมผมถึงเปรียบการเรียนในโรงเรียน และ มหาวิทยาลัยเพียงแค่เป็น Novice ตี Poring หล่ะ นั้นก็เพราะ ที่เราเรียนๆ ๆ และก็เรียนกันมาเนี่ย มันเป็นแค่ Skill พื้นฐานในการใช้ชีวิต และ การหาเงินเบื้องต้น เท่านั้นเอง โลกการทำงานจริงๆ โลกภายนอกมันกว้างมาก Skill ที่เราเรียนๆ กันมา มันก็ไม่ต่างกับพวก สกิล นั่งฟื้น HP,สกิลตั้งห้อง Chat, สกิลตั้งปาตี้ หรืออย่างดีคงเป็น สกิลแกล้งตายหละมั๊ง ส่วนที่ครู อาจารย์พร่ำสอนนั้น พวกท่านไม่ต่างไรกับ GM ที่คอยเสก Monster มาให้เรา ตีเก็บ Exp กัน บางท่านอยากให้นักเรียนได้ดีเสก MVP มาเป็นว่าเล่น Baphomet เต็มข้อสอบ แม้แต่ Heal ABS ก็ไม่ให้ บางท่านตอนเรียนให้ตี Poring แต่ออกสอบมา อย่างกะเจอ Baphomet แหมะ จะเอา skillไรสู้กะมันค๊าบบบ!? แต่ก็นั้นแหละ ทุกสิ่งล้วนเป็นการให้เราได้เก็บเลเวล เก็บ Exp เพื่อให้พร้อม เปลี่ยนอาชีพ ตอนที่เราก้าวออกมาจากมหาวิทยาลัยนั้นเอง เหมือนก้าวออกเมือง Prontera มุ่งหน้า Morroc
สมัครงาน ทำงาน – เปลี่ยนอาชีพ อับ Skill ตามสาย
ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เราต้องเลือกสายที่เราจะเรียน อย่างมัธยม ก็ต้องเลือก สายวิทย์ หรือ ศิลป์ (ไม่ใช่ Vit, Str นะ) พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เลือกตามคณะ แถมในคณะ ยังมีภาควิชา เฉพาะทางแยกย่อยเข้าไปอีก และไอ้ที่เราเลือกเรียนเนี่ย มันก็สะท้อนว่า อนาคต เราอยากจะทำอาชีพอะไร ถ้าอย่างในเกมส์ Ragnarok ก็เหมือนกับว่าจะเล่น Wizard ก็ต้อง Up int ไว้ก่อนตั้งแต่เป็น Novice ส่วน Skill นั้น พอเปลี่ยนอาชีพเป็น Sage, Wizard ก็ค่อยว่ากัน อย่างผม วิศวะคอมพิวเตอร์ ก็มีหลายสายเชียวแหละ ทั้ง Programming Network Hardware Database AI บลาๆ เยอะพอๆ กับอาชีพ Wizard นั้นแหละ ที่มีทั้งสาย ไฟฟ้า(Lord of Vermillion) สายน้ำแข็ง(Storm Gust) สายไฟ(Fire Pillar) ประมานนั้นเลย ซึ่งการอับskill ก็ค่อนข้าง งงๆ หน่อย เพราะจะอับอะไรยังไงนั้น ยากยิ่งกว่าในเกมส์ เพราะในเกมส์มี Skill Tree บอกไว้ ถ้าอยากได้ Jupitel Thunder ต้องอับ Lightning Bolt 1 อะไรทำนองนี้ แต่โลกความจริง!?
อย่างเช่น อยากโปร อยากinw เน็ดเวิร์ค มันไม่เห็นมีใครบอก ว่าต้องอับ Skill ยังไง ลองไปอับ พื่นฐานเน็ดเวิร์คซัก 2 Lv. แล้วไป อับ Linux ซัก 3 Lv. ดีมั๊ย !? หรือ database ซัก 2 เลเวล โปรแกรมมิ่ง 1 พอ แค่พอผ่าน ภาษา C Java พวกนี้ก็ 1 พอ แค่พอผ่าน แล้วเทไปอับสาย security 5 เพื่อเอาไปอับ…บลาๆ มันก็ไม่ใช่ โลกความจริงมันไม่มีสูตรสำเร็จขนาดนั้น หรือพอที่จะบอกว่าต้องเรียนทางไหนเท่าไหร่ ยังไง อยากเก่ง อยากเทพ(inw) ต้องหมั่นเก็บ exp ทำ Quest ด้วย ฯลฯ (อยากinw เน็ดเวิร์ค ต้องถามศรันย์ @sawoohoorun ไม่รู้ว่าอับสกิลไรไปบ้าง – -*) exp ที่เรียนรู้ไม่ใช่แค่ตี Monster ที่ GM เสกมาอย่างเดียว มันก็ต้องไปทำเควสบ้าง เพราะที่ GM เสกมา อย่าง poring exp มันก็ไม่เท่าไหร่ แถมทุกคนตีเหมือนกัน มันก็ได้เท่ากันหมด(แต่จริงๆก็ไม่เท่าหรอก) พอดีนึกสนุก เลยเอา Skill Ragnarok มาจัดซะเป็น Skill CPE ซะเลย 555+
จะเรียก Skill Tree หรือ วิชาที่ต้องเรียนของวิศวคอม มช ดีหละเนี่ย
ก็ประมานนี้ พอหอมปากหอมคอ อาจารย์ท่านใดหลงเข้ามาอ่าน ผมผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ _/|\_
ว่าถึงประเด็นว่า ตีมอน เหมือนๆ กัน แต่ได้ EXP ไม่เท่ากัน เอ๊ะ มันยังไง!? แน่นอนอยู่แล้วว่าชีวิตจริง ย่อมไม่เหมือนเกมส์ออนไลน์ที่ตี poring ได้ exp 2 แต่ทุกคนใช่ว่าจะได้ 2 เท่ากันทุกคนเพราะ status ส่วนตัวมันต่างกัน แถมอัตราการเรียนรู้ก็ต่างกัน บางคน ตี poring อาจจะได้ 3 4 5 ด้วยซ้ำเพราะ %มันพวกเพิ่ม เหมือนมี Priest มาแจกสกิลให้ หรือบางคน อาจจะได้ 1 หรือ 0.5 ก็มี ดังนั้น ถ้าคนที่ตีแล้วได้ exp น้อยกว่าเพื่อนมันก็ต้องตีเยอะขึ้น เพื่อจะได้ ทัดเทียมชาวบ้านเรา เพื่อนผมบางคน ตีเยอะกว่าชาวบ้าน แต่ exp ยังน้อย บางคนตี poringแม่งตัวเดียวได้ exp อย่างกะ ตี poporing ก็ยังมี
เลือกที่ทำงาน บริษัททำงาน – Dungeon เก็บเลเวล เก็บเงิน
การเริ่มต้นทำงาน หลังจากเรียนจบนั้น มันก็เหมือนกับการเลือก Dungeon ที่จะเก็บเลเวลเพื่อให้เราได้ exp อับ skillไว้เป็นเทพในอาชีพนั้นๆ ในอนาคต หรือ เพื่อเป้าหมายในอนาคต นั้นเอง การเลือกดันเจี้ยนนั้น อาจจะยาก ตอนแรกเพราะหลังจากที่ Novice เดินออกจาก ป่าล่างเมืองProntera ก็เจอกับโลกกว้างมากมาย ไม่รู้จะไปไหนดี ที่ๆจะไปก็จะมีแต่ Dungeon ใหญ่ๆ มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดี ข้อดีของพวก ดันเจี้ยนใหญ่ๆ นั้นก็คือ มี monsterให้ตีเก็บ exp ได้นานไม่ต้องเปลี่ยนดัน บ่อยๆ อยู่ได้เป็นสิบๆ ปี หรือจนเลเวลสูงเลยทีเดียว แต่กับพวก Dungeon เล็กๆ มีให้เก็บ exp ได้ไม่นานซักเท่าไหร่ ก็ต้องเปลี่ยน เพราะตีต่อไป exp มันก็ได้น้อยเหลือเกิน…ใน Dungeon แต่ละที่ก็มี npc ไว้ให้ทำเควสอีกมากมาย ก็ไม่ควรไปหลงตีมอนเก็บ exp อย่างเดียว มันควรจะทำเควสควบคู่ไปด้วย นั้นก็หมายความว่า ไม่ควรจะก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว ต้องหาความรู้ในองค์กร นั้นๆ ว่าเป็นยังไงด้วย หรือบางคนอาจจะทำอาชีพเสริมควบคู่ไปด้วย เหมือนมีเควสหลัก เควสเสริม เพราะพวกนี้ทำไป ก็ได้ exp ไม่ก็ได้เงิน หลาย zeny เลยทีเดียว และเมื่อถึงจุดอิ่มตัว ก็คงต้องเปลี่ยนดันเจี้ยนเก็บเลเวล มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะยิงไข่มด จนเป็น wizard หรอกนะ ส่วนอีกหลายๆคนที่ไม่คิดจะทำงานอยากเรียนต่อ เขาก็ยังจะยึดมั่น เพื่อเป็น Super Novice ต่อไป เมื่อเขาพร้อมจะเปลี่ยนอาชีพเมื่อไหร่ เขาก็คงจะได้รู้เองไม่มีใครจะหนี ชีวิตจริงได้หรอก การเรียนเพื่อหนีว่าไม่อยากทำงาน มันหนีไม่พ้นจริงๆ…
เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ เยอะ!
เล่ามาซะยืดยาว ชีวิตเราก็เหมือนเกมส์ออนไลน์เกมส์นึง นั้นแหละ เราจะ up skill ยังไง ทำเควส ใชัชีวิตยังไง ตัวเราเองเท่านั้นที่กำหนด ยังไงก็อ่านกันเพลินๆ เก็บเป็นข้อคิดซักนิด ละกันครับ มีอะไรก็แชร์ๆ กันไว้ได้ ขอบคุณที่ติดตามครับ : )
M | T | W | T | F | S | S |
---|---|---|---|---|---|---|
« Oct | ||||||
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |
Leave a Reply