ไม่ได้เขียนโพสยาวๆ มานาน วันนี้ตั้งใจจะมาเล่าเรื่องนี้โดยเฉพาะ นะครับ อาจจะมีศัพท์เทคนิคไปบ้างก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ก่อน ที่มาที่ไปคือเมื่อวันก่อนเห็นน้องแชร์เรื่อง SEO หรือเรียกเป็นภาษาคนให้เข้าใจคือ “การทำเว็บให้ติด Google” นั้นแหละ นิยามคำนี้ผมเรียกมันแบบนี้มาจะสิบปีแล้ว คือ ถ้าคนในวงการออนไลน์จะรู้กันว่า อิผลการค้นหาของ Google เนี่ย จริงๆ แล้วมันปรับได้ ก็คือ มันสามารถทำให้เว็บเราไปอยู่ในผลการค้นหา ของคำๆ ใด ก็ได้ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บเรา เช่น ผมทำเว็บขายของ ก็อยากให้คนที่ค้นคำว่า “ขายของออนไลน์” แล้วเจอเว็บผมอยู่ในผลการค้นหา นี่ก็ทำได้ แล้วก็เคยทำมาแล้ว ซึ่งความยากง่ายก็ขึ้นกับคู่แข่ง และปัจจัยอื่นๆ ว่ากันไป ทีนี้สิ่งนึงที่ทำให้ผมชวนคิดมาก็คือว่า เรื่อง SEO เนี่ยมันมีมาเป็นสิบปีแล้ว (ผมเขียนเรื่อง SEO ไว้หลายปีแล้ว) แค่หลักการมันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อสิบปีก่อนเราพูดถึงการทำ On-Page ยังไง ตอนนี้มันก็ยังเหมือนเดิม แต่อาจจะต้องพลิกแพลงมากน้อยก็ตามกาลเวลา แต่จากประสบการณ์ผมยืนยันได้เลยว่ามันเหมือนเดิม แล้วอะไรหละ ที่เปลี่ยนแปลง สำหรับ SEO
พอดีเมื่อวานเรียนวิชานึง กล่าวถึงคำว่า Carbon Footprint ก็เลยนึกถึงบนโลกอินเทอร์เน็ตที่เราใช้ชีวิตอยู่อีกโลกนึงที่เป็นโลกคู่ขนานกันขึ้นมา ที่ถึงแม้อาจจะไม่มีการปล่อย Carbon แต่ก็มี Footprint อย่างนึงที่เราทุกคนทิ้งไว้ เยอะมากไม่แพ้กัน นั้นเรียกว่า Digital Footprint ..
เรื่องนี้เป็นความจริงที่เลี่ยง
พอดีวันนี้ได้อ่านข่าว เรื่อง One Cent Movement ซึ่งเป็นโครงการของ สิงคโปร์ เกี่ยวกับการ บริจากเงิน ในคอนเซป We turn your everyday transactions into opportunities to give to charity. สำหรับการใช้จ่ายเงินทุกครั้ง บนเว็บไซต์ ออนไลน์ชอปปิ้ง ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Amazon Ebay Zalora เป็นต้น เมื่อ Check out ชำระค่าสินค้า ระบบจะทำการ Popup หน้าต่างให้ บริจาก โดยการปัดเศษ เช่น สินค้าราคา 13.25$ ถ้าต้องการบริจาก ระบบก็จะปัดเศษ กลายเป็น 14$ โดย เงินอีก .75 จะเข้าไปสู่ระบบ One Cent Movement เพื่อนำไปบริจากให้กับโครงการ หรือ หน่วยงานการกุศลต่างๆ ต่อไป